วันพฤหัสบดีที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2553

Channel 3 :
เรื่องย่อละคร 365 วันแห่งรัก




บทประพันธ์โดย : ร่มแก้ว
ผลิตโดย : บริษัทเมกเกอร์ เจ กรุ๊ป จำกัด
บทโทรทัศน์โดย : ณัฐิยา ศิรกรวิไล - เบญจวรรณ โอฬารนิธกุล
กำกับการแสดงโดย : อำไพพร จิตต์ไม่งง
ออกอากาศทุกวัน พุธ - พฤหัสบดี เวลา 20.30 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3

เรื่องย่อละคร 365 วันแห่งรัก
แอน ทองประสม และ เคน ธีรเดช
แอน ทองประสม และ เคน ธีรเดช


คงไม่มีใครคาดคิดว่านี่จะเป็นข้อความที่ ลัลนารี(แอน ทองประสม) สถาปนิกสาวสวยเขียนยื่นให้กับตุลา (ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์) อัยการหนุ่มมาดขรึมในวันที่เธอขอเค้าแต่งงาน เธอเป็นผู้หญิงที่ขอผู้ชายแต่งงานเพราะเธอคิดว่าถ้ารอให้ผู้ชายขี้อายอย่างตุลาเป็นฝ่ายเอ่ยปากเธอคงต้องรอไปจนผมหงอก ตุลาตอบตกลงแต่งงานกับลัลนารีโดยไม่ลังเล แม้คืนวันแต่งงานลัลนารีจะหลับปุ๋ยเพราะความเหนื่อยอ่อนจึงไม่ได้เป็นภรรยาโดยพฤตินัยของตุลาและเช้าวันรุ่งขึ้นตุลาก็ต้องไปทำคดีสำคัญแทนการฮานีมูน

ลันนารีทำการเซอร์ไพร้สด้วยการชวน ภารตี(ศรีพรรณ ชื่นชมบูรณ์) เพื่อนสนิทมานั่งรอตุลาในร้านอาหารแถวสำนักงานของเขา แต่ลัลนารีก็ต้องเซอร์ไพร้สกว่าเมื่อตุลาเดินมาในร้านอาหารพร้อม รชา (ภัครมัย โปตระนันทน์) สาวเปรี้ยวเพื่อนเก่าสมัยเรียนผู้กำลังมีปัญหาคดีความ ลัลนารีก็หึงหน้ามืดลุกพรวดไปเสนอหน้าพูดจาประชดประชันจนเกือบมีเรื่องกับรชา และก็ไม่ยอมฟังคำอธิบายของตุลา ลัลนารีไม่สบายใจระแวงว่าตุลาจะไปพบรชาจึงไปปรึกษา ลักษมี (ดวงตา ตุงคะมณี) ผู้เป็นแม่ที่มีประสบการณ์สู้รบปรบมือกับ ลิขิต สามีจอมเจ้าชู้ผู้เป็นพ่อของลัลนารี แทนที่จะปลอบใจลักษมีกลับยุยงให้ลัลนารีจับตาดูตุลาให้มากกว่าเดิม แถมยังพูดจากระทบกระเทียบ ลดาวัลย์ (ปนัดดา วงศ์ผู้ดี) พี่สาวของลัลนารีว่าตามผัวเจ้าชู้อย่าง ชวินทร์(จักกฤษณ์ อำมรัตน์) ลักษมีอยากให้ลดาวัลย์เลิกกับชวินทร์แต่ทำไม่ได้เพราะถึงชวินทร์จะเป็นผัวที่ไม่ได้เรื่อง แต่ก็เป็นพ่อที่ดีของบาหลี(ด.ญ.เฟลิเซีย นัฐษณา บูทเชอร์)

ด้วยแรงยุของลักษมีทำให้ลัลนารีระแวงและคอยจับผิดตุลามากขึ้นสร้างความหนักใจให้กับตุลาอย่างมาก และเหตุการณ์ณ์ก็ยิ่งทวีความรุนแรงเมื่อลัลนารีบังเอิญไปพบรชาที่สำนักงานของตุลา รชายังแค้นและบอกว่าเธอเป็นแฟนเก่าและกลับมาเพื่อแย่งตุลาคืน ลัลนารีโกรธจัดตบตีกับรชา วีรกรรมความหึงหวงครั้งนี้สร้างความอับอายให้ตุลาแต่เขาก็โกรธเธอไม่ลง ลัลนารีกลุ้มใจจึงไปหาภารตีที่คอนโดและได้พบกับ ภาวิช(วรฤทธิ์ เฟื่องอารมณ์) พี่ชายของภารตี ภาวิชปลอบใจลัลนารีจนภารตีกลับมา ภารตีพาลัลนารีไปเดินเล่น และเกิดความคิดพากันไปตรวจดวงชะตากับหมอดู(เพ็ญพักตร์ ศิริกุล) "เธอต้องหย่าเพราะปัญหาที่มีอยู่ในวันนี้" ลัลนารีโกรธมากด่าว่าทายมั่วซั่ว เพื่อพิสูจน์คำทำนายหมอดูจึงให้บันทึกประหลาดเล่มหนึ่งและบอกว่าบันทึกเล่มนี้จะทำให้ลัลนารีเห็นอนาคตในอีก 1 ปีข้างหน้า ลัลนารีไม่เชื่อแค่อยากพิสูจน์จึงเอาบันทึกไว้ใต้หมอน และแล้วลันารีก็ต้องตื่นตะลึงเมื่อพบว่าเธอตื่นขึ้นมาในบ้านของลักษมี โดยมี ปั๊กกี๊ หมาหน้าตาหน้ารังเกียจ ลัลนารีงุนงงกับการมาที่นี่เธอก็ได้รับคำตอบจากลักษมีว่าเธอเทลาะกับตุลาและหนีมานอนที่นี่ ลัลนารีตกใจเมื่อรู้ว่าวันเวลาที่เธออยู่นี้คืออีก 1 ปี และแล้วชีวิตของเธอก็ได้อยู่ทั้งโลกปัจจุบันและโลกอนาคต เพื่อดูชีวิตความจริงของตัวเอง

โลกปัจจุบันลัลนารีตื่นขึ้นในเรือนหอที่มีตุลานอนเคียงข้างเธอเชื่อว่าเรื่องที่เห็นเป็นเพียงฝันร้าย เธอมั่นใจว่าเธอไม่มีวันหนีไปนอนบ้านแม่ ไม่มีวันทำร้ายตุลาและไม่มีวันหย่ากับเขาแน่นอน ตุลาพาลัลนารีไปทานอาหารร้านเดิมที่บรรยากาศไม่โรแมนติคสักนิด แต่เธอก็มีความสุขเมื่อตุลาขอโทษที่โกหกเธอเรื่องรชาและบอกว่าเตรียมของขวัญไว้ให้ที่บ้าน ลัลนารีนั่งรถกลับบ้านเธอคาดหวังว่าจะได้พบกับของขวัญสุดเซอไพร้ส และเมื่อกลับไปเธอก็ต้องพบกับ ธุม(สุประวัติ ปัทมสูต) พ่อปากร้ายใจดีของตุลาที่จะมาอยู่ร่วมชายคา และสิ่งมีชีวิตอีกอย่างที่ทำให้เธอตกใจแทบช้อคก็คือ เจ้าปั๊กกี๊ เธอวิ่งหนีทันทีที่เห็นมันเธอคิดว่าเหตุการณ์ที่เธอเห็นไม่ใช่ความฝันแต่เธอได้ไปเห็นเหตุการณ์ในอนาคตจริงๆ

โลกอนาคต ลัลนารีนัดภารตีที่เปลี่ยนลุคใหม่ตั้งแต่หัวจรดเท้าและดูมีลับลมคมในคล้ายกำลังจะตกเป็นเมียน้อยของเจ้านาย ให้มาช่วยค้นหาความลับของตุลา ลัลนารีพบข้อความที่รชากับตุลาสลับกันเขียนตอนเป็นแฟนกัน ลัลนารีโกรธมากที่ตุลาเย็นชากับเธอแต่เขียนข้อความให้รชาหวานจับใจเหลือเกิน ลัลนารีไม่รูเลยว่าที่แท้จริงแล้ว ติ้ง(ญาณี จงวิสุทธิ์) พี่สาวของตุลาเป็นคนเขียน

ลัลนารีโกรธรชามาก ที่รชากับตุลาเคยสลับกันเขียนข้อความตอนเป็นแฟนกัน เธอจึงไปหารชาแต่ก็ต้องชะงักเมื่อพบว่ารชากำลังถูก ภูบดินทร์(วรวุฒิ นิยมทรัพย์) สามีเก่าประเคนหมัดใส่อย่างแรง ถึงจะเกลียดรชาเข้าไส้แต่เธอก็ไม่ไร้มนุษยธรรมขนาดที่จะไม่ช่วย แต่ก่อนที่เธอจะเข้าไปรชาก็ขับรถหนีสามีเก่าเธอไปได้ซะก่อน ยังไม่ทันหายตกใจลัลนารีก็ได้รับข้อความว่าตุลานัดพบรชาลงชื่อผู้หวังดี ผู้หวังดีคนนี้เป็นใคร 1 ปีที่ผ่านมาทำไมช่างมีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายเหลือเกิน และเธอก็ได้ขับรถไปที่ร้านอาหารและได้พบว่าตุลานัดเจอกับรชาจริงๆ ลัลนารีโวยวายลั่นร้านว่ารชาจะแย่งสามี แต่พอเห็นร่องรอยฟกช้ำและรู้ความจริงว่ารชามาปรึกษาคดีหย่ากับสามีที่ชอบทำร้าย ลัลนารีก็อึ้งไป ตุลาโกรธและพยายามอธิบายให้ลัลนารีเข้าใจว่าที่ไม่ยอมบอกเพราะว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของรชา ลัลนารีตั้งใจจะเปลี่ยนอนาคตที่ไปเห็นมาให้ได้ เธอจึงเฝ้าระวังดูตุลาอย่างเข้มงวด ขณะที่ลัลนารีคอยกันท่าและหวาดระแวงเรื่องรชา ณพ เจ้านายของตุลามอบหมายให้ตุลาทำคดีใหญ่ คือคดีของ ภูมิบดินทร์ เมืองเทพ ผู้ต้องหาอุ้มฆ่า สุธี อึ้งชัยกุลพานิช นักธุรกิจใหญ่และครอบครัว โดยให้ ณิชนิชา (มิรา โกมลวณิช) สาวหวานแต่ทำงานเก่งมาเป็นผู้ช่วยของตุลา แค่แรกพบณิชนิชาก็ตกหลุมรักตุลาอย่างจัง ฝ่ายตุลาที่มั่นคงกับลัลนารีรู้ดีว่าถ้าภรรยาจอมหึงรู้ว่าเขามีผู้ช่วยเป็นผู้หญิงต้องเกิดความวุ่นวาย ตุลากับ นวัต (หลุยส์ สก๊อต) จึงช่วยกันปกปิดเรื่องนี้เป็นความลับ

ลัลนารีคุยกับ จุรี กับ อิ๋ม คู่หูจอมเม้าท์ประจำสำนักงาน จนเกือบรู้ว่าตุลามีณิชนิชาเป็นผู้ช่วยคนใหม่ ส่วนนิชนิชาก็เจ็บใจที่รู้ว่าตุลาแต่งงานแล้ว ชวินทร์กับลดาวัลย์ทะเลาะกันเพราะแผนของลัลนารี ลัลนารีรู้สึกผิดมากจึงไปปลอบใจลดาวัลย์ ทำให้ลัลนารีได้พบกับกานต์ หนุ่มหล่อที่เพิ่งย้ายมาอยู่ในบ้าน กานต์สนใจลดาวัลย์ ลักษมีให้ลดาวัลย์แกล้งคบกานต์เพื่อให้ชวินทร์หึงและกลับมาคืนดีกับลูกสาวเธอ ในโลกอนาคตครั้งนี้เธอรู้ว่าแผนที่ลักษมีเอากานต์มาเป็นเครื่องมือได้ผล ลดาวัลกับชวินทร์กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง

โลกอนาคตลัลนารีได้รับข้อความจากผู้หวังดีว่าแมวกำลังไปเฝ้าปลาย่าง ลัลนารีไปที่ทำงานของตุลาและได้พบกับรชา ลัลนารีต่อว่ารชาจนมีปากเสียงกันอีก ตุลาโกรธลัลนารีที่มาอาละวาดที่สำนักงาน นวัตที่หลงรักณิชนิชากำลังต่อว่าณิชนิชาเรื่องส่งข้อความให้ลัลนารี ณิชนิชาให้เหตุผลว่ารักตุลา อยากให้ตุลาเลิกกับลัลนารี เพราะการมีเมียไม่มีเหตุผลทำให้ตุลาไม่มีความสุข ความรักที่วุ่นวายของลัลนารีกับตุลาจะกลับมาคืนดีกันหรือไม่ และเรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร ต้องติดตามชมในละครเรื่อง 365 วันแห่งรัก แพร่ภาพทุกคืนวันพุธ และ พฤหัสบดี เวลา 20.30 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3


รายชื่อนักแสดงนำ
ตุลา หรือ ตู่ แสดงโดย ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์
ลัลนารี หรือ ลัล แสดงโดย แอน ทองประสม
ดร.ภาวิช แสดงโดย วรฤทธ์ เฟื่องอารมณ์
รชา แสดงโดย ภัครมัย โปตระนันทน์
ภูมิบดินทร์ หรือ ภูมิ แสดงโดย วรวุฒิ นิยมทรัพย์
ชวินทร์ หรือ วิน แสดงโดย จักรกฤษณ์ อำมะรัตน์
ภารตี หรือ ตี้ แสดงโดย ศรีพรรณ ชื่นชมสมบูรณ์
ลดาวัลย์ หรือ ลดา แสดงโดย ปนัดดา วงศ์ผู้ดี
นวัต แสดงโดย หลุยส์ สก๊อต
ณิชนิชา แสดงโดย มิรา โกมลวณิช
ลักษมี แสดงโดย ดวงตา ตุงคมณี
ธุม แสดงโดย สุประวัติ ปัทมสูต
ติ้ง แสดงโดย ญาณี จงวิสุทธิ์
จุรี แสดงโดย ปาจรีย์ ณ นคร
กานต์ แสดงโดย ธิตินันท์ สุวรรณศักดิ์
บาหลี แสดงโดย ด.ญ.เฟลิเซีย นัฐษณษ บูทเชอร์
ไอ้ปั๊กกี้ แสดงโดย หมาพันธ์ปั๊กชื่อ "อั่งเปา"






วันอังคารที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2553

วนิดาตอนจบแบบละเอียด(ตอนอวสาน 18)

วนิดา ตอนที่ 18 ตอนจบ
ประจักษ์ไปถึงบ้านวนิดา สมหมายรีบออกมารับหน้าบอกวนิดาไม่อยู่ นายดาวก็ไม่อยู่ ประจักษ์บอกว่าถ้าอย่างนั้นตนจะเข้าไปรอ สมหมายผายมือตามความเคยชิน แต่พอนึกได้รีบบอกว่าเข้าไม่ได้ พอประจักษ์ ถามหน้าขึงขังว่าทำไมไม่ได้ สมหมายประหม่าโพล่งออกไปว่า "คุณนิดสั่งไว้" พอนึกได้ก็รีบเอามือปิดปากตัวเอง

ประจักษ์หรี่ตาถามอย่างรู้ทันว่าว นิดาอยู่แต่ไม่อยากพบตนใช่ไหม สมหมายจนแต้มอ้อนวอนว่าอย่าทำให้ตนต้องลำบากใจเลย ประจักษ์ไม่สนใจเดินเข้าไปในบ้านทันที สมหมายวิ่งตามไปหน้าตาตื่น

ปรากฏ ว่าประจักษ์เข้าไปเจอจวงเข้า จวงตกใจ พอประจักษ์ ถามว่าวนิดาอยู่ไหน จวงตอบเร็วปรื๋อว่าอยู่บนห้องค่ะ ประจักษ์ เดินขึ้นไปทันที สมหมายเพิ่งตามมาถึงเอ็ดจวงเบาๆว่าบอกทำไม จวงหน้าจ๋อยเสียงอ่อยว่าลืมไป

ประจักษ์ ขึ้นไปเคาะประตูห้องวนิดาร้องเรียกเธอ "นิด... นิด..." วนิดาผงะตกใจที่เสียงเขามาร้องเรียกอยู่หน้าห้องประตูนี่เอง ละล้าละลังไม่รู้จะทำอย่างไรดี ประจักษ์ร้องถามว่า

"เปิดประตูให้ฉันเข้าไปหน่อยได้ไหม"

"คุณกลับไปเถอะค่ะ แล้วฉันจะให้คุณพ่อโทร.ไปนัดวันหย่ากับคุณนะคะ" วนิดามายืนพูดตรงประตู

"ไม่ ฉันไม่กลับ แล้วฉันก็ไม่ยอมหย่าด้วย ฉันมีบางอย่างต้องพูดกับเธอนะนิด"

วนิดา ยืนพิงประตูจะร้องไห้ขอร้องเขาว่าอย่าทำให้ตนลำบากใจเลย ขอให้กลับไปเสียเถิด ประจักษ์เงียบไปนาน จึงตอบไปด้วยน้ำเสียงเศร้ามากว่า

"ก็ ได้...ฉัน จะกลับ แต่ขอให้เธอรู้ไว้นะนิด ว่าจะไม่มีอะไรมาเปลี่ยนใจฉันได้ ถึงตอนนี้ฉันจะยังบอกคำสามคำนั้น" ประจักษ์เว้นไว้อย่างเข้าใจกันว่าคือคำ ฉัน-รัก-เธอ "กับเธอไม่ได้ เพราะฉันต้องรับผิดชอบคำพูดที่ให้ไว้กับคนคนหนึ่งก่อน แต่เมื่อถึงวันที่ทุกอย่างเรียบร้อย ฉันจะมาหาเธอ รอฉันวนิดา อย่าเพิ่งหย่ากับฉัน รอฉันนะ..."

น้ำเสียงสุดท้ายของประจักษ์นั้น เว้าวอน...เศร้า...จนวนิดาต้องรีบเอามือปิดปากไม่ให้เสียงร้องไห้ดังออกมา เธอร้องไห้กลั้นสะอื้นจนสะท้านไปทั้งตัว

เมื่อประจักษ์เดินออกจาก บ้าน วนิดามายืนมองจากทางหน้าต่างน้ำตาไหลพราก และเมื่อเขาหยุดค่อยๆหันกลับมองขึ้นมาที่หน้าต่าง เธอก็ทรุดตัวลงนั่งใต้หน้าต่างร้องไห้ สะอึกสะอื้น

ประจักษ์เข้าไปนั่งในรถด้วยความเศร้าเสียใจอย่างที่สุด...

ooooooo

ส่วน ประจวบไปหาชุมศรีที่บ้านเช่า เล่าเรื่องของพี่ชายให้ฟัง ชุมศรีตกใจถามว่าแล้วพิสมัยจะทำอย่างไร ประจวบบอกว่านั่นคือปัญหา แต่ปัญหาใหญ่กว่านั้นคือคุณแม่ ถ้าพี่ชายรักวนิดาคุณแม่ไม่ยอมแน่ บางทีอาจถึงกับบ้านแตกเลยก็ได้

"แล้วเรื่องของเราจะทำให้บ้านคุณแตกรึเปล่าคะ" ชุมศรีกังวลมาก

"ไม่ ต้องห่วงนะชุมศรี ฉันจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้เราได้อยู่ด้วยกัน" พูดให้กำลังใจชุมศรีอย่างนั้น แต่ประจวบเองก็หน้าเครียดด้วยความกังวล

อีก คนที่เกี่ยวข้องอย่างมากคือมนตรี วันนี้เขามาที่บ้าน มหศักดิ์อย่างร่าเริง ประจวบเข้ามายกมือไหว้บอกว่ามีเรื่องอยากเจอพอดี มนตรีถามว่าอะไรหรือ

"ผมอยากถามเรื่องพี่ใหญ่กับคุณนิด พี่มนตรีรู้รายละเอียดทุกอย่างดีแน่ๆ"

"ไอ้จักษ์กับคุณนิด? ทำไม?"

"เขาสองคนรักกันพี่ไม่รู้เหรอ" ประจวบถามเหวอๆแต่ทำเอามนตรีหน้าเจื่อนสนิท

ooooooo

จน เมื่อประจักษ์กลับจากบ้านวนิดามาถึงบ้าน มนตรีไม่พูดพร่ำทำเพลงตรงเข้าชกเปรี้ยงเดียวเลือดกบปาก ประจักษ์ไม่ชกตอบแต่ถามว่าเป็นบ้าอะไร ส่วนประจวบรีบเข้ารั้งตัวมนตรีไว้บอกให้ใจเย็นๆ เมื่อประจักษ์ถามว่าต่อยตนทำไม มนตรีโพล่งออกไปอย่างรับไม่ได้ว่า

"ฉัน รู้เรื่องทุกอย่างจากเจ้าเล็กหมดแล้ว นายคิดจะบอกฉันเรื่องความรู้สึกของนายที่มีต่อคุณนิดเมื่อไหร่" เมื่อประจักษ์รู้ว่าเพื่อนชกเรื่องอะไรก็หันไปมองหน้าน้องชาย ประจวบยิ้มเจื่อนๆอย่างรู้สึกผิด มนตรีถามต่อว่า "เนี่ยเหรอวะเพื่อน...ปล่อย...ปล่อยฉันเจ้าเล็ก"

ประจวบถามว่าถ้า ปล่อยแล้วเขาจะทำร้ายประจักษ์ไหม มนตรีพูดเครียดๆว่าไม่ทำแล้วเจ็บมือ พลางเอามือข้างที่ต่อยประจักษ์ขึ้นดูอย่างรู้สึกเจ็บจริงๆ

"มนตรี...ฉัน..." ประจักษ์กระอักกระอ่วนใจ

"ไม่ ต้องพูด!!" มนตรีเข้ากระชากคอเสื้อประจักษ์จนเขาตกใจนึกว่าจะชกอีก แต่กลายเป็นพูดว่า "ถ้านายรักคุณนิดจริง ฉันจะเอาใจช่วย แต่นายต้องสัญญากับฉันว่านายจะดูแลทะนุถนอมเอาใจใส่รักคุณนิดให้มากๆ นายสัญญากับฉันได้ไหมไอ้จักษ์ ว่านายจะทำตามที่ฉันพูด"

ประจักษ์พยักหน้าอึ้งๆก่อนตอบว่า "ฉันสัญญา แต่คงต้องรอดูว่านิดเขาจะรับรักฉันรึเปล่า"

"คนดีอย่างนาย ผู้หญิงที่ไหนไม่รักก็โง่แล้ว จำไว้นะไอ้จักษ์ ถ้านายทำให้คุณนิดของฉันเสียใจเมื่อไหร่ ก็ไม่ต้องเป็นเพื่อนกันอีก!!"

มนตรี รีบปล่อยมือจากประจักษ์เพราะกำลังจะกลั้นน้ำตาไม่อยู่ ประจักษ์ตบบ่าขอบใจเพื่อนด้วยความซึ้งใจ มนตรีเมินหน้าจากประจักษ์ไปแล้ว แต่ยังเอี้ยวตัวยกมือขึ้นอย่างเท่บอกว่า

"ไม่ต้องขอบใจ อะไรที่ทำให้คุณนิดมีความสุข ฉันก็ควรยินดีไม่ใช่เหรอ"

มนตรีจากไปอย่างพระเอกสุดเท่ ประจักษ์ถอนใจโล่งอกหันมองประจวบที่ถอนใจและยิ้มให้พี่ชายอย่างโล่งอกเช่นกัน

ooooooo

ความ เสียใจทำให้มนตรีเดินไปนั่งพิงประตูเหล็กหน้าร้านสองอนงค์โดยไม่รู้ตัว อำไพมาพบร้องทักอย่างตกใจ "คุณมนตรี คุณเป็นอะไร" แล้วพาเข้าไปนั่งในร้าน มนตรีจึงเล่าเรื่องที่เกิดกับประจักษ์และวนิดาให้ฟัง เล่าไปร้องไห้ไปอย่างเสียใจมาก

อำไพให้กำลังใจจับไหล่เขาเรียก "คุณมนตรี..." ทำให้ มนตรีรู้สึกอบอุ่นขอกอดเธอได้ไหม อำไพมองนิ่งๆอย่างสงสาร มนตรีโผเข้ากอดเธอร้องไห้อย่างหนัก เธอให้กำลังใจว่า

"คุณมนตรีคะ ฉันรู้ว่าคุณเสียใจ แต่อย่าลืมว่าเรื่องนี้มันไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิตคุณ คุณเป็นคนดี และฉันก็เชื่อว่า

คนดีๆอย่างคุณต้องเจอคนที่เขารักในความเป็นคุณแน่นอน"

คำ พูดดีๆ การให้กำลังใจอย่างอบอุ่นของอำไพ ทำให้ มนตรีซาบซึ้งมีกำลังใจจับมือเธอไว้ ขออยู่ที่นี่กับเธอสักพักได้ไหม ในภาวะนี้อำไพไม่อาจปฏิเสธได้ สองมือกุมกันไว้อย่างอบอุ่น

ooooooo

คืน นี้ ประจักษ์ตัดสินใจจะคุยขั้นสุดท้ายกับพิสมัย เมื่อเธอเข้าไปหาขณะเขายืนอยู่คนเดียว ประจักษ์ รวบรวมกำลังใจขอโทษเธอสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมาที่ทำให้เธอเสียใจหลาย ครั้ง

พิสมัยใจหายเดาได้ว่าเขาจะพูดอะไรอีก รีบบอกเขาว่าตนไม่เคยโกรธเขาเลยสักนิดเดียว ประจักษ์บอกว่าเขาโกรธตัวเอง โกรธที่คำสัญญาของตนปิดโอกาสของเธอไว้ ไม่เช่นนั้นเธออาจจะได้เจอคนที่ดีกว่าตนไปแล้ว

"คุณพี่คือคนที่ดีที่ สุดในชีวิตของน้อง ไม่มีใครในโลกนี้ อีกแล้วที่จะดีเท่ากับคุณพี่" พูดแล้วรีบเปลี่ยนเรื่อง "น้องรู้ค่ะว่าคุณพี่รู้สึกผิดที่ทำให้น้องต้องรอคุณพี่ แต่น้องไม่เคยคิดอะไรแบบนั้นเลยนะคะ น้องเต็มใจรอคุณพี่เสมอ เพราะหัวใจของน้องมอบให้คุณพี่คนเดียว อย่ารู้สึกผิดอีกเลยนะคะ... น้องขอตัวก่อน"

ประจักษ์เรียกเธอไว้ พูดตรงๆว่า "พิสมัย...เราเลิกหลอกตัวเองสักที ไม่มีประโยชน์ที่จะยื้อความสัมพันธ์นี้ต่อไปอีกแล้ว เธอกับฉันรู้อยู่แก่ใจว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้น ความรู้สึกของฉันไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ฉันอยากให้เธอเริ่มต้นใหม่กับใครสักคนที่เขาดีกับเธอ ดีกว่าฉัน ฉันเสียใจนะพิสมัยที่ไม่อาจทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับเธอได้ โปรดเข้าใจและให้อภัยฉันด้วย"

พิสมัยยืนนิ่งไม่หันมาแต่น้ำตาไหลพราก ประจักษ์ ตัดสินใจหันหลังเดินไปเงียบๆ

ooooooo

พิสมัย เจ็บปวดแทบขาดใจ รุ่งขึ้นเธอไปหาปราณี ที่บ้านเล่าให้ฟังว่าประจักษ์บอกเลิกตนแล้ว ปราณีตกใจถามว่าแล้วเธอบอกไปอย่างไร พอรู้ว่าพิสมัยไม่ได้ พูดอะไร ปราณีชี้แนะทันที

"พิสมัย ตราบใดที่คุณใหญ่ยังไม่ได้พูดคำว่าไม่รักเธอ เธอก็ยังมีหวัง เธอจะปล่อยให้เรื่องระหว่างเธอกับคุณใหญ่จบลงไม่ได้ ถ้าจบเท่ากับว่านังวนิดาแย่งคุณใหญ่จากเธอได้สำเร็จ"

ปราณีวางแผนให้ พิสมัยต้องยอมทอดกายให้ประจักษ์ เชื่อว่าผู้ชายร้อยทั้งร้อยไม่มีใครรอดแผนนี้สักคน ย้ำว่า "ถ้าเธอรักคุณใหญ่อยากได้คุณใหญ่กลับมา เธอต้องทำ"

สุดท้ายพิสมัยรับปากว่าจะลองดู สองสาวยิ้มให้กันอย่างให้กำลังใจกันเต็มที่

แล้ว โอกาสทองก็มาถึง เมื่อประจวบจะไปสังสรรค์กับเพื่อนและกลับดึก พิสมัยอาศัยจังหวะนี้ใส่ชุดนอนวาบหวิวมีเสื้อคลุมไปเคาะประตูห้องประจักษ์ขอ เข้าไปคุยด้วย พอประจักษ์เปิดประตูเห็นเธอในชุดนอนจึงยืนกันไว้ชวนไปคุยกันข้างนอกดีกว่า เพราะถ้าใครมาเห็นเข้าคงดูไม่ดี

เมื่อเตรียมจะมาทอดกายแล้ว พิสมัยรุกเต็มที่เดินตรงไปที่เตียงชวนเขามานั่งคุยกันตรงนี้

"พิสมัย ฉันคิดว่าเราพูดกันเข้าใจแล้วเสียอีก" ประจักษ์ พูดอย่างไม่พอใจ

"น้อง เข้าใจค่ะ เข้าใจทุกอย่าง แต่น้องทำตามที่คุณพี่ บอกไม่ได้" แล้วเธอก็คร่ำครวญว่าตนละทิ้งทุกอย่างจากในวัง มาอยู่บ้านมหศักดิ์เพราะมั่นใจว่าจะได้แต่งงานกับเขา พูดแล้วก็เข้าเล้าโลมลูบไล้หน้าอกเขาอย่างเย้ายวน อ้อนขอว่า

"น้องขอแค่คุณพี่แต่งงานกับน้องเท่านั้น แต่งงานแต่ ในนามก็ได้ คุณพี่แต่งกับน้องนะคะ"

ประจักษ์มองหน้าพิสมัยอย่างนึกไม่ถึงว่าเธอจะกล้าถึงเพียงนี้แนะให้เธอกลับไปอยู่ในวังเสีย

"น้อง กลับไปไม่ได้แล้ว น้องอยากมีครอบครัวกับคุณพี่ น้องไม่อยากรับใช้ใครอีก คุณพี่แต่งงานกับน้องนะคะ...น้องขอร้อง" พลันก็โผเข้ากอดประจักษ์ไว้ ถูกเขาผลักออก เธอกลับถอดเสื้อคลุมออกโชว์ชุดนอนที่เซ็กซี่จนประจักษ์ตกใจถอยห่างร้องห้าม ว่าอย่าทำแบบนี้
พิสมัยรุกหนักผลักเขานอนบนเตียงแล้วล้มทับเขาทันทีซุกไซ้เขาอย่างกระสัน

"อย่า ทำให้ฉันรังเกียจเธอมากไปกว่านี้เลยพิสมัย" ประจักษ์ดันตัวเธอออกแล้วลุกขึ้น พิสมัยกำมือแน่นด้วยความแค้นใจ เมื่อเขาขอให้เธอออกไปจากห้องนี้เสียเพราะทุกอย่างมันจบแล้ว พอเธอปึงปังออกไป ประจักษ์ก็ปิดประตูอย่างโล่งอก

ooooooo

วันต่อมา ป้าทองกับไปล่ก็ไปร้องเรียกวนิดาที่หน้าบ้านเธอ ไม่ไกลจากนั้นนักประจักษ์ยืนพิงรถจ้องมองอย่างรอคอย แต่คนที่ออกมากลับกลายเป็นจวงกับสมหมาย ประจักษ์รีบเดินสวนเข้าไป สมหมายวิ่งตามร้องบอกว่าวนิดาไม่อยู่ ประจักษ์ไม่หยุดบอกว่าไม่อยู่ตนก็จะเข้าไป

นายดาวออกมาพอดี พอเห็นประจักษ์ก็ถามว่ามาทำไม ประจักษ์ตอบชัดเจนว่า "ผมมาหาเมียผม" พูดแล้วเดินดุ่ยเข้าไป นายดาวรีบตามไป เมื่อประจักษ์เข้าไปร้องเรียกวนิดา นายดาวบอกว่าตนบอกแล้วว่าวนิดาไม่อยู่ มีธุระอะไรคุยกับตนก็ได้

ประจักษ์ บอกว่าเป็นเรื่องระหว่างตนกับวนิดา ตนจะมารับเธอกลับไปอยู่ด้วยกัน ถูกนายดาวท้วงติงว่าให้เขาไปแก้ปัญหาของตัวเองก่อนดีกว่า ซึ่งประจักษ์ก็เดาได้ว่านายดาวหมายถึงเรื่องของมณฑา แล้วนายดาวก็สาธยายว่า

"ผม กับลูกสาวไม่เคยเรียกร้องอะไรจากคุณ บางสิ่งที่ยัยนิดอยากให้คุณเปิดปาก แต่คุณกลับทำเฉย แค่นี้ผมก็เห็นแล้วว่าคุณไม่สามารถปกป้องลูกสาวผมได้ จัดการอะไรไม่ได้ ผมจะจัดการตามวิธีของผม"

ประจักษ์รีบชี้แจงว่า ตอนนี้ปัญหาระหว่างตนกับพิสมัยชัดเจนแล้วตนมีเรื่องสำคัญต้องบอกวนิดา นายดาวจึงตัดบทว่าแล้วตนจะบอกวนิดาเองว่าเขามาหาแต่ตอนนี้ "เชิญ" เขากลับไปก่อน

พอกลับถึงบ้าน ประจักษ์นั่งทบทวนความหวังและความเชื่อใจของวนิดาที่มีต่อตน หวังว่าเขาจะเป็นคนเปิดเผยเรื่องของย่ามณฑาของเธอ แต่จนบัดนี้เขาก็ยังไม่ได้ทำอะไรเลย

คุณนายน้อมเข้ามาถามว่าพิสมัยหายไปไหน มองหน้าลูกแล้วถามว่าเป็นอะไรหย่ากับวนิดาแล้วใช่ไหม พอเขานิ่งคุณนายย้ำว่า

"อย่าปล่อยให้นังวนิดามันจูงจมูกได้เหมือนตอนที่ย่าของมันจูงจมูกคุณลุงนะ"

นี่เองทำให้ประจักษ์ฉุนขึ้นมาแย้งว่าให้เลิกพูดถึงป้ามณฑาในแง่นี้เสียที แต่เขาก็ไม่กล้าพูดความจริงออกมาอยู่ดี

ooooooo

เพราะนายดาวต้องไปงานเลี้ยงกลับดึกจึงฝากจวงให้บอกวนิดาว่าประจักษ์มาหา จวงพูดไม่ทันไรสะอิ้งก็เข้ามาบอกว่าพิสมัยมาขอพบ

เมื่อ ออกไปพบ พิสมัยขอร้องวนิดาให้คืนประจักษ์ให้ตน คร่ำครวญว่าความรักที่ตนมีต่อประจักษ์นั้นมากมายจนเอาชีวิตเข้าแลกได้ เล่าชีวิตในวัยเด็กให้ฟังหมายเรียกความสงสารจากวนิดาว่า

แม่เอาตนมา ทิ้งไว้หน้าวัง เสด็จท่านมาพบจึงเลี้ยงไว้ ชีวิตจึงอยู่ในระเบียบที่เสด็จวางไว้อย่างเข้มงวดไม่เคยมีความเบิกบานหรือ ความรื่นรมย์ใดๆเลย

"จนกระทั่งฉันได้เจอคุณพี่ฉันถึงได้รู้ว่าผู้ชายคนนี้คือคนที่จะมาเติมเต็มชีวิตของฉัน ถ้าฉันไม่มีคุณพี่ชีวิตก็ไม่

เหลืออะไร ฉันขอร้องนะวนิดาโปรดช่วยฉัน ทำยังไงก็ได้ให้คุณพี่หย่ากับเธอแล้วกลับมาหาฉัน"

"ฉันขอโทษ ฉันไม่รู้จะช่วยคุณยังไง เชิญคุณกลับไปเถอะ" วนิดาตอบเรียบๆ

ทันใดนั้นพิสมัยปัดแก้วตกแตกแล้วคว้าเศษแก้วมา กรีดข้อมือตัวเองจนเป็นลมหมดสติไป วนิดากับจวงต้องรีบพา

ส่งโรงพยาบาล จนเมื่อพิสมัยฟื้นขึ้นมาคร่ำครวญถามว่า "ทำไมไม่ปล่อยให้ฉันตาย"

"ถ้า คุณตายแล้วใครจะดูแลคุณประจักษ์ ฉันจะช่วยคุณ แต่คุณต้องรับปากกับฉัน ห้ามทำให้คุณประจักษ์เสียใจเด็ดขาด คุณต้องรักและดูแลเขาให้ดีที่สุด" วนิดาตัดสินใจเด็ดเดี่ยว ทำให้พิสมัยดีใจสุดชีวิตขอบคุณเธอครั้งแล้วครั้งเล่า โผเข้ากอดวนิดาไว้แต่แววตาเจ้าเล่ห์ร้ายกาจนัก!

วนิดาห้ามจวงเล่า เรื่องพิสมัยมาหาและเกิดเรื่องให้ใครฟังเด็ดขาด เธอรอจนนายดาวกลับมาจึงชวนพ่อว่าพรุ่งนี้ไปบ้าน มหศักดิ์กันให้พาทนายไปด้วยตนจะไปหย่ากับประจักษ์

ooooooo

รุ่งขึ้นนายดาว วนิดา และสุธีทนายความก็ไป

ที่ บ้านมหศักดิ์ เจอคุณนายและพิสมัยนั่งอยู่จึงแจ้งจุดประสงค์พร้อมกับมอบสัญญาที่เขียนไว้ ก่อนแต่งงานกับวนิดามอบให้ประจักษ์เซ็นเพื่อจะได้เสร็จสิ้นการหย่ากัน

ปรากฏ ว่าจวงทนไม่ได้เล่าให้ป้าทองกับไปล่และสมหมายฟัง ป้าทองบอกจวงว่าต้องเล่าให้ประจักษ์ฟังเพราะบางทีอาจจะทำให้ประจักษ์กับ วนิดากลับมาคืนดีกันก็ได้

ในที่สุดจวงยอมเสี่ยงตายดักพบและเล่าให้ ประจักษ์ฟัง ดังนั้นเมื่อเขาเจอพิสมัยเขาถามอย่างเอาเรื่องว่า เมื่อวานเธอไปหาวนิดาทำไม พิสมัยอึกอัก เขาพูดต่ออย่างโกรธจัดว่า

"ฉันนึกว่าเราคุยกันเข้าใจแล้วเสียอีก ไม่นึกเลยว่าเธอจะใช้วิธีสกปรกอย่างนี้ เธอทำแบบนี้ทำไมพิสมัย เธอทำทำไม!"

พิสมัยอ้างว่าตนทำเพราะรักและไม่อยากเสียเขาไป ถูกประจักษ์พูดใส่หน้าอย่างดุดันว่า

"แต่ฉันไม่ได้รักเธอแล้วพิสมัย!"

คุณ นาย ได้ยินเสียงเอะอะรีบมาถามว่าเกิดอะไรขึ้น พิสมัยโกหกว่าไม่มีอะไร คุณนายเลยเร่งว่าถ้าอย่างนั้นก็รีบจัดการตามที่ทนายบอกเสีย นายดาวแย้งขึ้นว่าตนขอถามอะไรประจักษ์ก่อน แล้วถามว่า

"คุณแน่ใจนะคุณประจักษ์ ว่าคุณจะหย่ากับลูกสาวผมจริงๆ"

"ผม ไม่หย่า! ผมไม่มีวันยอมให้นิดไปจากผม" ประจักษ์ประกาศอย่างเด็ดเดี่ยวต่อหน้าทุกคนย้ำว่า "นิดแต่งงานเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของผม ฉะนั้นนิดต้องอยู่กับผมที่นี่" แล้วหันไปบอกวนิดา "ฉันรักเธอวนิดา...ฉันรักเธอ"

พิสมัยแทบคลั่งลุกพรวดไปตบหน้าวนิดา แต่ประจักษ์ลุกขึ้นขวางเลยถูกตบแทน ประจวบลุกไปรวบตัวพิสมัยลากออกไป ส่วนคุณนายหน้าตาเหลอหลาทำอะไรไม่ถูก

พอตั้งหลักได้ คุณนายก็ประกาศกร้าวว่าจะไม่ยอมรับวนิดาเป็นสะใภ้เด็ดขาด เมื่อนายดาวขอให้เป็นการตัดสินใจของประจักษ์กับวนิดา คุณนายก็ประกาศอย่างอาฆาตว่าถ้าวนิดาอยู่ที่บ้านมหศักดิ์ต่อไป ตนก็จะแกล้งให้เลือดตากระเด็นเลยทีเดียว

"ไม่ต้องกลัวนะนิด ฉันจะปกป้องเธอให้พ้นจากทุกสิ่งที่จะทำให้เดือดร้อน ฉันเป็นสามีของเธอ ฉันรักเธอด้วยใจจริง ฉันขอรับประกันภัยที่จะเกิดกับเธอด้วยชีวิตและเกียรติยศของฉัน เธอไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น เราจะสู้ด้วยกันนะนิด"

คุณนายยังหา เรื่องด่าประจักษ์ว่าไอ้ลูกโง่ ไม่รู้หรือว่าวนิดาเป็นเชื้อสายของมณฑาที่ต้องการจองล้างจองผลาญเรา ต้องการทำลายมหศักดิ์ของเรา!

ทั้งประจักษ์และวนิดาเถียงไปทันทีพร้อม กันว่าไม่จริง คุณนายคาดคั้นว่าให้พูดมาเดี๋ยวนี้เลยว่าไม่จริงอย่างไร ประจักษ์ยังไม่กล้า บอกว่าตนยังไม่พูดตอนนี้ ทำให้วนิดาผิดหวังที่แค่นี้เขาก็ไม่กล้าแล้ว วนิดาวิ่งออกไป นายดาวพูดขึ้นกับประจักษ์และคุณนายว่าแค่ประจักษ์บอกรักวนิดาต่อหน้าทุกคนตน ก็นับถือเขาแล้ว บอกประจักษ์ว่า "เรื่องนี้ต้องใช้เวลา ผมจะเข้าข้างคุณช่วยเหลือคุณทุกอย่าง"

ประจักษ์ยกมือไหว้ขอบคุณนายดาวเป็นครั้งแรก นายดาวจับมือรับไหว้แล้วชวนสุธีกลับ

พอนายดาวกับสุธีไปแล้ว คุณนายหันมาพูดกับประจักษ์ด้วยความเสียใจอย่างที่สุดว่า

"ยัง ไงแม่ก็จะจัดงานเปิดตัวพิสมัยกับปราณี สองคนนี้เท่านั้นที่จะเป็นสะใภ้มหศักดิ์ ไปตาเล็กพาแม่ไปพักผ่อนที แม่ดีใจนะที่มีตาเล็กเป็นลูกหัวแก้วหัวแหวน ไม่งั้นแม่ขาดใจตายแน่ๆ"

ประจวบฟังแล้วเครียดกับชะตากรรมที่ตนต้องเผชิญต่อไป

ooooooo

เมื่อกลับถึงบ้าน นายดาวปลอบใจวนิดาว่าอย่าโมโหประจักษ์เลย ถ้าเกิดเรื่องอย่างนี้กับตน ลูกก็คงทำแบบเดียวกับประจักษ์ ย้ำกับวนิดาว่า

"ชีวิต คู่ ย่อมต้องมีอุปสรรค แต่ถ้าเรามีรักแท้ เราก็จะสามารถฟันฝ่าอุปสรรคทุกอย่างไปได้ คุณประจักษ์เขาเป็นคนดี เป็นคนกตัญญู เขาถึงต้องปกป้องแม่ของเขา เมื่อเรารู้ว่าคุณประจักษ์เขารักลูกและลูกก็รักเขา ถ้าอย่างนั้นลูกต้องให้เวลาเขา บางทีพ่ออาจจะต้องยื่นมือหาทางช่วยเพื่อให้เรื่องมันจบเร็วขึ้น"

วนิดามองหน้านายดาวอย่างสงสัยว่าพ่อจะทำอะไร นายดาวได้แต่ยิ้มอำๆกับเธอ

ส่วน ที่บ้านมหศักดิ์ ประจวบพาคุณนายขึ้นไปพักผ่อนพอคุณนายหลับเขาก็ลงมา ประจักษ์ถามว่าเขาจะจัดการอย่างไรกับเรื่องชุมศรีเพราะคุณแม่ฝากความหวัง ทั้งหมดไว้กับเขา

"การที่วันนี้ผมเห็นพี่กล้าบอกรักคุณวนิดาต่อหน้า คุณแม่ มันทำให้ผมศรัทธาในความรักมากขึ้นและเชื่อว่ารักแท้มีอยู่ในโลก ผมจะทำตามหัวใจตัวเองครับพี่ใหญ่"

"ทำในสิ่งที่แกคิดว่าดีที่สุดสำหรับแกและชุมศรีเถอะตาเล็ก" ประจักษ์ให้กำลังใจน้องชาย

ooooooo

เมื่อ ประจักษ์ประกาศชัดเจนเช่นนั้น วันต่อมาพิสมัยก็ขนของออกจากบ้าน คุณนายให้ประจักษ์ไปรั้งไว้ แต่เขากลับบอกว่าเมื่อเธอจะไปก็อย่าให้อนาคตของเธอมาพังเพราะเราเลย ในที่สุด พิสมัยก็ไปแต่ไม่วายพูดอาฆาตไว้ว่าถ้าวันไหนที่เขาถูกวนิดาทิ้งวันนั้นตนจะ มีความสุขมาก

พิสมัยไปหาปราณี ปราณีปลอบใจว่าไม่ต้องกลัวตนจะหาคนที่ดีกว่าประจักษ์ให้เอง และบอกให้พิสมัยพักอยู่กับตนที่บ้านนี้

แต่ คุณนายก็ยังไม่ยอมรับความจริง บอกให้ประจวบไปตามพิสมัยกลับมา ประจวบอ้างว่าตนไม่ว่าง คุณนายคิดว่าเขาจะไปหาปราณีเพื่อขอแต่งงานแน่ๆ รำพึงว่ามีแต่ประจวบเท่านั้นที่ทำให้ตนมีความสุข

หารู้ไม่ว่า ประจวบไปหาปราณีเพื่อจะบอกเธอว่าเขาจะแต่งงาน หลังแต่งงานจะย้ายไปอยู่ทางใต้ ปราณีดีใจมากแต่เอะใจว่าทำไมต้องย้ายไปอยู่ทางใต้ ประจวบบอกว่าเพราะเจ้าสาวของตนชื่อชุมศรี

เท่านั้นเองปราณีก็เปลี่ยน เป็นคนละคน เกรี้ยวกราดด่าว่าเขาว่าหลอกตน ประจวบโต้ว่าเธอต่างหากที่หลอกตนให้หลงเชื่อคำสัญญาลมๆแล้งๆ จดหมายจากเธอฉบับเดียวที่เขาได้รับนับแต่ไปอยู่ทางใต้ก็เป็นจดหมายที่ทำร้าย เขาอย่างเจ็บปวดที่สุด

ปราณีโกรธแค้นประณามว่ามหศักดิ์เป็นตระกูลที่ มีแต่เปลือก การที่ตนยอมลดลงไปแต่งงานด้วยก็ถือว่าเป็นบุญคุณ ท่วมหัวแล้ว แต่เมื่อเขายังโง่ก็จงโง่ต่อไปเถิด แล้วไล่ประจวบให้ออกจากบ้านตนไปเดี๋ยวนี้

ประจวบหัวเราะสะใจก่อนเดิน ออกไป ครู่เดียวพิสมัยก็เข้ามาถามว่าเกิดอะไรขึ้น พอปราณีบอกว่าประจวบทิ้งตนไปแล้ว สองสาวก็กอดกันร้องไห้ด้วยความเห็นใจกันและกัน

ooooooo

หลัง จากบอกปราณีอย่างชัดเจนแล้ว ประจวบกลับมาพาชุมศรีไปไหว้คุณนายที่บ้านแนะนำว่าชุมศรีคือน้องของคุณชวนและ เป็นคู่หมั้นตน เท่านั้นเอง เป็นเรื่องทันที คุณนายรับไม่ได้บอกประจวบว่า

"แม่ไม่ยอม คนที่เราต้องแต่งงานมีคนเดียว คือปราณี!!"

ชุม ศรีไม่สบายใจชวนประจวบกลับ แต่ประจวบยืนยันว่าวันนี้ทุกอย่างต้องจบ แล้วหันไปบอกคุณนายให้เลิกบังคับจิตใจคนอื่นเสียที เพราะตลอดเวลาตั้งแต่เล็กจนโตตนกับพี่ชายไม่มีโอกาสคิดทำอะไรอย่างที่ใจ ต้องการเลย ต้องทำทุกอย่างตามความรู้สึกและต้องการของคุณแม่แต่เพียงคนเดียวเท่านั้น
คุณนาย โกรธผิดหวังอย่างมากบอกประจวบว่าถ้าเห็นผู้หญิงคนนี้ดีกว่าแม่ก็ไม่ต้องมา เรียกตนว่าแม่อีก อยากไปไหนก็ไปเลย ประจวบตัดใจกราบลาแม่แต่ย้ำว่าให้แม่รู้ไว้ด้วยว่าตนยังรักและห่วงคุณแม่ เสมอ

พอประจวบกราบลาแล้ว คุณนายยืนช็อกอยู่ครู่หนึ่งก็เป็นลมจนถมเข้ามาประคองรับแทบไม่ทัน เมื่อประจักษ์รับรู้การตัดสินใจของน้องชาย เขาแสดงความยินดีด้วยและฝากชุมศรีช่วยดูแลประจวบด้วย

แต่ครั้งนี้ก็ ไม่ทำให้คุณนายเปลี่ยนความตั้งใจลดทิฐิ หากแต่ยังเตรียมการที่จะให้ลูกชายทั้งสองแต่งงานกับผู้หญิงที่ตนหาให้ ทิฐิว่า ตนคนเดียวเท่านั้นที่จะบอกให้ใครทำหรือไม่ทำอะไรก็ได้

ooooooo

คุณ นาย เรียกพิสมัยกับปราณีมาพบที่บ้านมหศักดิ์ สองสาวมาตามนั้นแต่ไม่ได้มาเพื่อจะเป็นสะใภ้ของมหศักดิ์ เธอมาเพื่อจะกล่าวโทษตำหนิต่อว่าคุณนายที่หลอกตนทั้งสองตลอดมาทำเหมือนว่า คุณนายทำเพื่อตนทั้งสองคนแต่ที่แท้ "คุณแม่ไม่ได้ทำเพื่อเราสองคน แต่คุณแม่ทำเพื่อตัวเอง คุณแม่เห็นแก่ตัว!!" ปราณีสรุป

พิสมัยยัง เสริมอย่างรู้ลึกถึงแก่นใจของคุณนายว่า "เพราะวนิดาเป็นหลานของมณฑา คุณแม่ก็เลยกลัวเสียหน้าถ้าต้องมีสะใภ้เป็นหลานของศัตรู คุณแม่ถึงพยายามใช้เราสองคนเป็นเครื่องมือแก้แค้นแทนตัวเอง"

ทั้งสองว่าคุณนายจนสะใจแล้วพากันกลับ ทิ้งคุณนายให้นั่งจมอยู่กับความโกรธแค้นเสียใจโดดเดี่ยวคนเดียว

ooooooo

แล้ว โอกาสที่จะยื่นมือเข้าช่วยวนิดาของนายดาวก็มาถึง เมื่อมีงานเลี้ยงวันเกิดของพระยาศิริรัตน์ นายดาว ขอให้วนิดาไปงานด้วยกัน บอกวนิดาว่าชื่อเดิมของท่านคือนายเจริญ ทำให้วนิดาชะงักจำได้ว่าจดหมายของท่านเจ้าคุณได้เอ่ยถึงชื่อนี้

ส่วนคุณนายเมื่อได้รับการ์ดเชิญก็ชวนประจักษ์ไปด้วยกัน เปรยๆว่าท่านกลับจากเมืองนอกแล้วหรือ ประจักษ์ถามว่าท่านเป็นใคร

"ท่าน เป็นเพื่อนรุ่นน้องที่สนิทสนมกับคุณลุง แม่นึกว่าเขาจะไม่กลับมาที่นี่อีกแล้ว เราไปงานด้วยกันนะลูก แม่อยากลบคำสบประมาทของนังปราณีที่บอกว่าเราเป็นพวกจอมปลอม แม่จะใช้งานนี้ทำให้มหศักดิ์กลับมามีชื่อเสียงอีกครั้ง" คุณนายยังหวังดิ้นเฮือกสุดท้ายต่อไป

เมื่อถึงวันงาน นายดาวพาวนิดาไปแนะนำให้รู้จักท่านเจ้าของงาน ครู่หนึ่งคุณนายมากับประจักษ์ คุณนายอวยพรท่านว่า "สุขสันต์วันเกิดนะคะท่าน" ท่านยิ้มรับบอกว่าเรียกว่าเจริญเหมือนเดิมก็ได้ ทำให้ประจักษ์สะดุดหูกับชื่อนี้เช่นเดียวกับที่วนิดารู้สึกและจำได้

เมื่อ ประจักษ์เจอนายดาวจึงรู้ว่านายดาวเป็นคนส่งการ์ดเชิญไปให้คุณนายน้อมเอง เพราะเมื่อเขาไม่กล้าทำอะไรตนก็จะจัดการให้เอง ย้ำกับเขาว่า

"ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย อย่าได้กังวลว่าคุณจะเป็นลูกอกตัญญู ใครทำอะไรไว้ก็ต้องได้รับผลอย่างนั้น"

ระหว่าง งานเลี้ยงนั่นเอง ด้วยความเห็นชอบของพระยาศิริรัตน์ นายดาวขึ้นพูดบนเวทีประกาศความบริสุทธิ์ล้างมลทินที่ถูกใส่ร้ายให้มณฑาผู้ เป็นป้าของตนว่า

พระยาศิริรัตน์คนนี้คือคุณเจริญที่ถูกกล่าวหาว่า เป็นชู้กับป้ามณฑาของตน ถูกหาว่าป้าขโมยเครื่องเพชรให้ชายชู้ จากนั้น พระยาศิริรัตน์ขึ้นมาเล่าด้วยตัวเองว่า

ตนเป็นรุ่นน้องของมณฑา อยู่ในวัยฉกรรจ์และติดการพนัน เล่นเสียจนเป็นหนี้สินรุงรังเกือบถูกฆ่าตาย แต่โชคดี ที่มณฑาช่วยไว้ โดยเอาเครื่องเพชรที่ท่านเจ้าคุณให้ไว้เอาให้เขาไปใช้หนี้ก่อน เขาจึงเอาไปจำนำและใช้หนี้จนหมด เวลานั้นเขายังพูดกับมณฑาว่ามากมายเกินไปคงรับไว้ไม่ได้ แต่มณฑาพูดอย่างเปี่ยมด้วยความรักและเมตตาว่า "มันไม่มากหรอก ถ้าได้แลกกับชีวิตของเธอ"

"ขอบคุณมากนะครับพี่มณฑา" เขายกมือไหว้กุมมือมณฑาไว้แน่นด้วยความซึ้งใจก่อนโผเข้ากอด เวลานั้นคุณนายน้อมมาเห็นถึงกับอ้าปากค้าง แอบดูจนเห็นพระยาศิริรัตน์ถือกล่องเครื่องเพชรออกไป

ข้อสรุปเกิดขึ้นในสมองคุณนายทันที ไปฟ้องท่านเจ้าคุณว่ามณฑาเป็นชู้กับพระยาศิริรัตน์และขโมยเครื่องเพชรให้ชายชู้

พระยา ศิริรัตน์เล่าอีกว่าหลังจากนั้นคุณพ่อก็เร่งส่งท่านไปต่างประเทศโดยไม่ทัน ได้ล่ำลาใครเลยแม้แต่มณฑาผู้มีพระคุณ ตนไม่รู้เลยว่าต่อมามณฑาถูกตราหน้าว่าเป็นชู้กับตนจนถูกสังคมประณาม

ต่อ มาเมื่อหาเงินได้ไถ่เครื่องเพชรทั้งหมดจึงได้นำมาคืนท่านเจ้าคุณฯที่กำลัง ป่วยหนักเพราะตรอมใจ คิดว่ามณฑามีชู้จริง เมื่อท่านเจ้าคุณฯรู้ความจริง ท่านร้องไห้พยายามจะพูด อะไรแต่ก็เบามาก ถูกคุณนายน้อมมาเรียกให้ออกไปเสีย อยากให้ท่านเจ้าคุณฯพักผ่อน ก่อนกลับได้ถามถึงมณฑา คุณนายบอกว่าไม่อยู่ แล้วพามาส่งที่รถ

เล่าความจริงทั้งหมดแล้ว พระยาศิริรัตน์เอ่ยอย่างผิดหวังเสียใจมากว่า

"ผม นึกไม่ถึงจริงๆ ว่าจะมีคนใช้วิธีสกปรก ใส่ร้ายป้ายสีพี่มณฑาเพราะต้องการสมบัติของมหศักดิ์" ท่านตำหนิตัวเองว่าถ้าตอนนั้นระแวงสักนิดพี่มณฑาคงไม่ต้องตายโดยที่ยังไม่ ได้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง"

คุณนายฟังจบก็โวยลั่นว่าไม่จริง ทุกคนอย่าไปเชื่อตนไม่ได้ทำอย่างนั้น พยายามจะให้ประจักษ์ช่วยแก้ต่างให้ แต่ประจักษ์กลับรับรองว่าสิ่งที่พระยาศิริรัตน์พูดมานั้นเป็นความจริง คุณนายแทบจะคลั่ง ถามว่ามีหลักฐานไหม พระยาศิริรัตน์บอกวนิดาว่าให้เอาจดหมายของท่านเจ้าคุณฯที่พบในวิหารพระออกมา เลยยืนยันว่า "เพราะข้อความในจดหมายที่ท่านเจ้าคุณฯเขียนระบุชัดเจนว่าใครเป็นคนใส่ร้าย พี่มณฑา"

คุณนายโต้เสียงลั่นว่าเป็นจดหมายปลอม ประจักษ์ ยืนยันว่าเป็นของจริงที่ตนกับวนิดาพบที่ใต้ฐานพระที่เก็บอัฐิของคุณลุง นายดาวหันบอกวนิดาให้เอาจดหมายออกมาอ่านดังๆเลย

วนิดานิ่งไปอึดใจ ก่อนจะพูดอย่างชัดเจนว่า "ไม่มีจดหมายค่ะ ฉันทำลายมันไปแล้ว คุณย่าคงไม่คิดอาฆาตพยาบาทใครคนนั้นเช่นเดียวกับดิฉันแล้วค่ะ"

ประจักษ์ มองวนิดาอย่างแปลกใจ ถามว่าเธอต้องการแค่นี้เองหรือ เธอยิ้มให้เขา ยืนยันว่าต้องการแค่นี้ ให้ความ บริสุทธิ์ของคุณย่าไม่ใช่ตนรู้แค่คนเดียวก็พอแล้ว

"ขอบใจนะนิด ขอบใจมาก" ประจักษ์กุมมือวนิดาไว้ด้วยความซาบซึ้งใจมาก

คุณนายสุดจะทนกับสายตาของแขกในงานที่มองตนเป็นตาเดียว ค่อยๆหลบเลี่ยงออกไป

วนิดา ตามออกไปบอกคุณนายว่าตนไม่โกรธไม่อาฆาตอีกแล้ว ความจริงที่คุณพ่อได้บอกแก่ทุกคนวันนี้ ตนกับคุณพ่อก็พอใจแล้ว ไม่ได้ต้องการทำลายคุณนายเลย

คุณนายสำนึกยอมรับความผิดของตัวเองและ ขอโทษวนิดา บอกว่าต่อไปสิ่งแรกที่จะทำได้ดีที่สุดคือ จะทำตัวเป็นแม่สามีที่ดีของเธอ ขอให้วนิดาเรียกตนว่าแม่ วนิดาจึงเรียก ด้วยความเต็มใจ ยังความปลื้มปีติแก่คุณนายยิ่งนัก

ooooooo

วันต่อมาคุณนายเอาพวงมาลัยมาขออโหสิที่เก็บอัฐิของมณฑา บอกกล่าวแก่มณฑาว่า

"ความดีของวนิดาหลานสาวของเธอทำให้ฉันสำนึกผิด อโหสิกรรมให้ฉันด้วยนะมณฑา"

ต่อ มาก็มีข่าวดีเมื่อประจักษ์ได้รับโทรเลขจากประจวบว่าไปถึงที่แล้วโดยสวัสดิ ภาพและฝากกราบคุณแม่ด้วย คุณนายดีใจมากบอกประจักษ์ให้เอากระดาษปากกามาแม่จะเขียนจดหมายหาตาเล็ก

พอ ได้กระดาษปากกามาปรากฏว่าคุณนายไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรดี ต้องอาศัยป้าทองที่บัดนี้คุณนายมองด้วยสายตาที่ต่างจากเดิมให้ช่วยคิดให้ที แล้วคุณนายก็เขียนตามคำบอกของป้าทองที่สั้นแต่ได้ใจความตรงประเด็นจนเอ่ยปาก ขอบใจป้าทองที่ตลอดมาไม่ทิ้งตนไปไหน

จากนั้นสั่งป้าทองให้พาพวกคนรับใช้ในบ้านให้ทำความสะอาดห้องของประจักษ์เผื่อเขาจะพาวนิดากลับมาอยู่

ooooooo

เมื่อ ปัญหาทุกอย่างคลี่คลายแล้ว ประจักษ์ไปขอแต่งงานครั้งที่สองกับวนิดา โดยแหวนแต่งงานครั้งนี้เขาเป็นคนเลือกเองและขอสวมให้ด้วยหัวใจที่เกิดจาก ความรักไม่ใช่การแต่งงานที่เกิดจากการถูกบังคับ

การแต่งงานครั้งที่สองจึงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและเอิกเกริกเปี่ยมไปด้วยความยินดีความสุขของทุกคนที่มาร่วมงาน

นอกจากนี้มนตรีกับอำไพยังควงกันมาในงาน ไปล่ก็ทำกะลิ้มกะเหลี่ยกับจวงอย่างเปิดเผย

ประจักษ์ผ่านด่านประตูเงินประตูทองมาอย่างราบรื่น จนมาถึงด่านนายดาว

"เดี๋ยว ก่อน ก่อนจะเข้าไปรับยัยนิด ผมต้องพูดอะไรกับคุณสักหน่อย...ผมมีลูกสาวคนเดียว...ยัยนิดเปรียบเสมือนเป็น ชีวิตของผม ผมเคยยกชีวิตของผมให้คุณครั้งหนึ่งและมันทำให้ผมรู้ว่าผมคิดไม่ผิด แต่ครั้งนั้นกับครั้งนี้ต่างกัน คุณกับยัยนิดมีหัวใจดวงเดียวกัน โปรดดูแลเอาใจใส่และปกป้องยัยนิดทำให้ยัยนิดมีความสุข" พูดถึงตรงนี้นายดาวร้องไห้ออกมาจนประจักษ์ตกใจ "รักลูกสาวผมให้มากๆนะคุณประจักษ์ ฮือๆๆ"

นายดาวโผเข้ากอดประจักษ์ ร้องไห้เสียงดัง ประจักษ์ อยากจะขำแต่ก็ขำไม่ออก ตบหลังนายดาวดังอั้กบอกว่า "คุณไม่ต้องห่วง นิดอยู่กับผม นิดจะไม่รู้จักคำว่าเสียใจเลย"

งานที่มีความสุขนี้ ทำให้คุณนายคิดถึงประจวบพึมพำว่าอยากให้มาอยู่ที่นี่ด้วยกันจังเลย ปรากฏว่าประจวบมายืนอยู่ตรงหน้าแล้วพร้อมกับชุมศรี คุณนายดีใจมากโผเข้ากอดประจวบและเรียกชุมศรีเข้าไปกอดพร้อมกับขอโทษที่ครั้ง แรกที่เจอกันไม่ได้ให้โอกาสเธอ จากนั้นชวนให้รีบเข้าไปในงานกัน

ฉลอง งานกันอย่างสนุกสนานแล้ว ถึงเวลาส่งตัวเข้าหอ นายดาวยังอวยพรให้ลูกทั้งสองรักและเข้าใจกันให้คิดเสมอว่าเราต้องฟันฝ่า อุปสรรคมากมายมาขนาดไหน ส่วนคุณนายอยากอุ้มหลานเร็วๆ

ooooooo

เมื่ออยู่กันตามลำพังในห้องหอ ประจักษ์เข้าสวม กอดวนิดาจากข้างหลังอย่างอ่อนโยน แต่วนิดาก็ตกใจถามเขินๆว่าจะทำอะไร

"รีบ มีหลานให้คุณแม่อุ้มเร็วๆไงล่ะ" ประจักษ์กระซิบเมื่อเธอเขิน เขาออดอ้อนว่า "นิดจ๋า...โปรดรู้ไว้นะว่าเธอคือสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตของฉัน ฉันรักเธอจนหมดทั้งหัวใจของฉันที่มี...นิด...ฉันขออะไรเธออย่างได้ไหม"

"อะไรคะ" เสียงประหม่าเพราะตื่นเต้น

"ฉัน อยากได้ยินเธอบอกว่ารักฉัน บอกให้ฉันชื่นใจหน่อยได้ไหม" วนิดาอิดออดว่าก็รู้อยู่แก่ใจแล้วยังต้องพูดอีกทำไม "ถ้าเธอไม่พูด ฉันจะบอกรักเธอไปเรื่อยๆจนถึงเช้า คิดว่าฉันไม่กล้าเหรอ" แล้วประจักษ์ก็พูดเป็นจังหวะไปเรื่อยๆอย่างไม่มีทีท่าจะหยุดว่า "ฉันรักเธอ...ฉันรักเธอวนิดา...ฯลฯ"

"พอได้แล้วค่ะ" วนิดาเขินจนทนไม่ได้ บอกเขาด้วยหัวใจ "ฉันรักคุณค่ะ พันตรีประจักษ์ มหศักดิ์ คะ ฉันรักคุณ รักคุณคนเดียว พอใจหรือยังคะ"

ประจักษ์ส่ายหน้า วนิดาถามว่าอะไรอีกหรือ

"ถ้าอยากให้ฉันพอใจก็..." เขายื่นหน้าเข้ามาจูบอย่างอ่อนหวานด้วยความรักแล้วผละออกมามองหน้าเธอเต็มตา พูดจากหัวใจที่เปี่ยมสุขว่า

"วนิดา เธอจะเป็นยอดรักของฉันตลอดไป"

ทั้งคู่กอดและยิ้มให้กันด้วยความปลื้มปีติ...

ooooooo



'อวสาน'

วันอาทิตย์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2553

วันนี้จะมาแปลเพลง Take a Bow ของ Rihanna กันค่ะ


*

Ooh..How about a round of applause โอวว ..
เป็นยังไงกับเสียงปรบมือให้

Yeah, Standin' ovation ที่เธอยืนโค้งคำนับ

Oooohh Oh Yeah

Yeah.. Yeah.. Yeah.. Yeah..

You look so dumb right now เธอดูโง่งี่เง่ามากเลย ตอนนี้
Standin' outside my house มายืนอยู่หน้าบ้านชั้น
Tryin to apoligize พยายามจะขอโทษ
You're so ugly when you cry เธอดูน่าเกลียด ทุเรศมากตอนร้องไห้
Please, Just cut it out ขอที , แค่ตัดใจให้มันจบเหอะ 

Dont tell me you're sorry 'cause you're not

อย่ามาพูดว่าขอโทษ เธอเสียใจเพราะเธอไม่ได้เสียใจหรอก
Baby when I know you're only sorry you got caught

ที่รัก พอฉันรู้ เธอเลยเสียใจเท่านั้นที่ถูกจับได้ (ว่ามีคนอื่นหรือ..กะใคร)

**But you put on quite a show เธอทำเหมือนสวมบทแสดง เล่นละคร
You really had me goin' เธอทำให้ชั้นต้องไป
But now it's time to go แต่ตอนนี้มัน หมดเวลาแล้วถึงเวลาที่ต้องไป
Curtain's finally closin' ม่านปิดลงแล้วการแสดง
That was quite a show มันแค่แสดงละครโชว์หนึ่ง
Very entertainin' 
 ที่น่าสนุกมาก
But it's over now (But it's over now) แต่มันจบแล้วตอนนี้ (แต่มันจบแล้วตอนนี้)
Go on and take a bow เล่นให้จบดำเนินต่อไปแล้วโค้งย้อมรับซะ
Ooh..Ooh..

Grab your clothes and get gone (Get gone, you better hurry up)
เก็บเสื้อผ้าของเธอแล้วรีบๆ ไปซะ (ไปซะ  เร็วๆ ด้วยล่ะ) 
Before the sprinklers come on
ก่อนที่สปริงเกอร์ รดน้ำสนามหน้าบ้านจะทำงาน  (ทำเธอเปียกแน่) 
Talkin’ about, girl, I love you, you’re the one
พูดว่า  ฉันรักเธอ  ฉันมีเธอเพียงคนเดียว 
This just looks like the re-run
 อย่างกับหนังฉายซ้ำยังไงยังงั้น 

Please !  ขอที! 
What else is on  แล้วต่อจากนี้จะเอาอะไรอีกล่ะ?   
 
And don’t tell me you’re sorry cuz you’re not 
และไม่ต้องมาพูดบอกฉันว่าเธอเสียใจเพราะเธอไม่ได้เสียใจ 
Baby, when I know you’re only sorry you got caught 
ที่รัก , ฉันรู้ดีเธอเสียใจก็เพราะถูกจับได้ต่างหาก   

[**]
And the Award for best liar goes to you
และแล้วรางวัลผู้โกหกยอดเยี่ยมก็ตกเป็นของเธอ 
For making me believe that you could be ที่ทำให้ฉันเชื่อว่าเธอจะสามารถ 
Faithful to me จริงใจกับฉันได้ 
Let's hear your speech out  เรามาฟังเธอกล่าวอะไรกันสักหน่อย   
 
[*, **]
But it's over now แต่มันจบลงแล้ว